แชร์เรื่องเล่า Wedding Studio เกาหลี
เจาะลึกทุกเรื่อง สตูดิโอถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ที่เกาหลี
![Odoo • Image and Text](/web/image/9171/iwedding-korea2.jpg)
ปลายปีที่แล้ว (2013) บางกอกเวดดิ้งได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวกับ KTO (องค์การท่องเที่ยวเกาหลี) ไปดูธุรกิจแต่งงานที่นั่น (ดูกันฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ )
... งานนี้ เป็นการระดมบริษัทธุรกิจแต่งงานชั้นนำของแต่ละประเทศเพื่อโปรโมทธุรกิจแต่งงานที่เกาหลี ไม่ว่าจะเป็น บริษัททัวร์ , นิตยสาร , เวดดิ้งแพลนเนอร์ และเวดดิ้งสตูดิโอ จากหลากหลายประเทศ อาทิ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโอนิเซีย สิงคโปร์ บางกอกเวดดิ้งได้เป็น 1 ใน 4 บริษัทที่ได้รับเชิญไปที่นั่นด้วย ( โอ้วว!! ) งานนี้เลยเอามาเล่าให้ฟังกันครับว่า ทริปท่องเที่ยวและถ่ายรูปแต่งงานที่เกาหลีของเจ้าสาวๆ หลายคนๆ เป็นอย่างที่เราวาดฝันกันหรือไม่ ....
เริ่มต้นด้วยการเดินทางกับ Korean Air ไปกับตัวแทน 4 ธุรกิจแต่งงานในเมืองไทย ได้แก่
- บางกอกเวดดิ้งแพลนเนอร์ แอนด์ สตูดิโอ (ตัวแทนเวดดิ้งสตูดิโอ)
- Sun Moon Tour and Travel (ตัวแทนการท่องเที่ยว)
- Wedding Creation Magazine (ตัวแทนสื่อสิ่งพิมพ์และนิตยสาร)
- Maple Love Wedding Planner (ตัวแทนเวดดิ้งแพลนเนอร์)
ออกเดินทางจากเมืองไทย ประมาณ 5 ทุ่ม กว่าจะไปถึงที่เมืองโซล ประเทศเกาหลีก็ 7 โมงเช้าได้ ช่วงที่ไปนั้นอากาศหนาวกำลังดี ประมาณ 1-10 องศา ใส่เสื้อหนาวแล้วกำลังเย็นได้ที่ อากาศดีมากๆ เริ่มต้นกันที่สนามบินด้วยการพบปะกับไกด์ท้องถิ่นที่นั่น มิสเคย์ (Ms. Kay) และตัวแทนนานาประเทศอีกกว่า 10 คนที่สนามบิน กว่าจะมากันครบ ก็ปาเข้าไป 10 โมงกว่าได้ .. ระหว่างทีเรารอกันนั้น พวกเราคณะชาวไทยต่างก็พักผ่อน ดื่มกาแฟ เดินเล่นกันตามอัธยาศัย บ้างก็อ่านหนังสือ บ้างก็นอนเอาแรงต่อจากที่นอนกันไม่เต็มที่ในเครื่องบิน .. รวมไปถึงเปิดโอกาสให้เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทำความรู้จักกันอย่างเมามันส์
... การมาเที่ยวครั้งนี้มีกฏข้อบังคับง่ายๆว่า อนุญาตให้บริษัทส่งตัวแทนมาได้เพียง 1 คนต่อบริษัท ไม่สามารถมีผู้ติดตามเพิ่มได้ ทีแรกก็กลัวเหมือนกันว่าจะเหงาและไม่มีเพื่อน แต่..ไม่เลย ! เพราะทุกคนล้วนมาเพียงคนเดียวหมด จึงทำให้เราเปิดโอกาสทำความรู้จักกับทุกๆ คน ทุกประเทศที่มาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แถมคนที่มาแต่ละคน ต่างก็อายุอานามไล่ๆ กันหมด บรรยากาศเหมือนสมัยรับน้องมหาลัยช่วงวัยรุ่นเลยทีเดียว ... จะว่าไปแล้ว บริษัทัวร์น่าจะจัดทริปเดี่ยวที่อนุญาตให้มาเพียงคนเดียวแบบนี้ น่าจะสนุกไม่ใช่น้อย ....
หลังจากรวมตัวกันครบแล้ว เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่ Seoul ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. กว่าได้ เข้าไปที่เก็บกระเป๋าพักผ่อนกันที่ Seoul Plaza Hotel ใจกลางเมืองโซลเลย ( แบบว่าสามารถเดินข้ามถนนมาแล้วเจอเมียงดง แหล่งชอปปิ้งวัยรุ่น ประมาณสยามบ้านเราเลย ) กำหนดการวันแรกเป็น Free Day เราเที่ยวกันเอง (การดูงานจริงๆ จะเริ่มจากวันที่สอง) วันแรกนี้เราเลยไปชอปปิ้งซื้อของฝากกันก่อนเลยที่เมียงดง มีเครื่องสำอางแบรนด์ดัง อ่ย่าง Skin Foods และ Etude ที่ราคาถูกมากๆ แล้วพลบค่ำ จึงไปเดินเก็บบรรยากาศท้าอากาศ 1องศากันที่คลอง Cheonggyecheon ( อีกหนึงสถานที่ยอดฮิทที่มักเห็นกันในซีรีย์เกาหลี)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9172/IMG_3488-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9173/5-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9174/6-2.jpg)
เริ่มต้นวันที่สอง ด้วยตารางเดินสายแน่นเอี๊ยด ...สถานที่แรก เราเดินทางไปที่ i-wedding สตูดิโอไอทีอันดับหนึ่งของโลก ( ไม่รู้ว่าอันดับหนึ่งยังไง เขาอ้างมาว่าอย่างนั้น ) .. ต้องบอกก่อนว่า การทำธุรกิจสตูดิโอที่นั่นจะไม่เหมือนกับที่บ้านเรา ... เนื่องจากที่เกาหลีมีเวดดิ้งสตูดิโอเยอะมาก ดังนั้น สตูดิโอส่วนใหญ่จะขายแพคเกจผ่าน Agency เพื่อให้อเจนซี่ไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ( บางคู่ถ้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินไปซื้อตรงๆ อาจจะราคาแพงกว่าได้ ) i wedding จึงเป็นเสมือน Agency ที่ใหญ่ที่สุด มีพาร์ทเนอร์ที่ติดต่อด้วยมากมาย ผลงานหลากหลายสตูดิโอก็ใช้ได้เลยทีเดียว เราสามารถที่จะเข้าไปติดต่อกับเขาแล้วให้เขาจัดการทั้งหมด ตั้งแต่รับที่สนามบิน เดินทาง หาที่พัก ท่องเที่ยว ถ่ายภาพสตูดิโอ จนไปถึงส่งกลับสนามบินได้เลย
![Odoo • Image and Text](/web/image/9175/123.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9176/1234.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9177/IMG_8924-2.jpg)
เมื่อจบจาก iwedding แล้ว เราก็ไปต่อกันที่ Oriental Medical Spa พาชาวคณะทุกคนได้ลิ้มรสและสัมผัสกับสปาเกาหลี เป็นสปาเพื่อการบำบัด สามารถพูดคุยและปรึกษากับหมอรักษาได้เลย .. เนื่องจากผมไม่เคยนวดหรือทำสปามาก่อน จึงบอกไม่ได้ว่าสปาอันนี้นวดได้ดีแค่ไหน จึงขอไม่ออกความเห็นใดๆ หากใครมีโอกาส ก็แนะนำให้ลองไปกันดู แต่ราคาน่าจะแพงอยู่พอสมควรเลย (เห็นจากขวดน้ำมันนวดที่วางขายแล้ว หลักหมื่นบาทไทยเชียวล่ะ ..)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9178/_6-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9179/_9-2.jpg)
จบจากสปา เราก็ไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน Bibigo ข้าวยำเกาหลี รสชาติจากปากเพื่อนร่วมคณะเขาว่าอร่อยทีเดียว แต่คงจะไม่ถูกปากผม ผมยังคงชอบอาหารไทยมากกว่า ..ระหว่างทานอาหาร ก็ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยถึงประวัติศาสตร์เกาหลีที่น่าสะเทือนใจมาก ... ประวัติศาสตร์เกาหลีที่เรารู้มานั้น เขียนโดยชาวญี่ปุ่น เป็นมุมมองจากชาวญี่ปุ่น แต่หากได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากที่ประเทศเกาหลีเอง จะรู้ได้เลยว่า ชาวเกาหลี รุ่นเหนือเจน X ขึ้นไป ..เกลียดชาวญี่ปุ่นมาก ส่วนเกลียดเพราะอะไรนั้น ต้องลองไปศึกษาประวัติศาสตร์จากชาวเกาหลีกันดู
หลังจากทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว เราก็ไปเยี่ยมชม Modern Souls Photo Studio เป็นเวดดิ้งสตูดิโอระดับกลางๆ ที่ขึ้นชื่ออีกที่หนึ่ง ภาพผลงานใน internet บางส่วน เราก็เห็นมาจากที่นี่ ผมพึ่งเห็นว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่สร้างภาพเก่ง ที่สตูดิโอเกาหลีก็เก่งไม่แพ้กัน สถานที่ที่ตาเนื้อจริงเรามองเห็น แตกต่างจากบนหน้าจอคอมแบบหน้ามือหลังมือเชียว
การถ่ายภาพสตูดิโอที่นี ( ทุกที่ในเกาหลี ) จะมีแอคชั่นหรือโพสมาแล้วทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องครีเอทอะไรใหม่ๆ หรือสร้างความเอกลักษณ์ให้กับแต่ละคู่บ่าวสาว 10 กว่าปีที่แล้ว เคยถ่ายต้นแบบไว้อย่างไร 10 ปีต่อมา ก็ยังถ่ายกันแบบนั้น ... ช่างภาพแทบจะไม่ต้องมีความรู้ด้านการถ่ายภาพ เพราะทุกอย่างถูกเซทมาแล้ว เราสามารถเอาใครก็ได้มากดชัตเตอร์ถ่ายภาพ ขอแค่พูดคุยกับแบบเก่ง และบิ้วอารมณ์แบบเก่ง ก็นับว่าใช้ได้แล้ว
![Odoo • Image and Text](/web/image/9180/i-1.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9181/g-1.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9182/a-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9183/IMG_3591-2.jpg)
หลังจากใช้เวลาที่เวดดิ้งสตูดิโอสักพัก เราก็ไปต่อกันที่ร้านตัดชุดแต่งงาน Lee Seung Jin ร้านตัดชุดแต่งงานชื่อดัง เจ้าของเป็นดีไซนเนอร์ในระดับนานาชาติ ฝีมือย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน อย่างชุดข้างล่างนี้ ใช้ผ้าเกรดดี ลูกไม้งานเนี้ยบสุดๆ และใช้คริสตัลแท้เงาวาวเล่นกับแสงไฟสวยมาก (เจ้าของไม่อนุญาตให้จับชุดเขาด้วยมือเปล่า) สนนราคาเช่าชุดนี้ก็ไม่แพงมาก (ไม่ขาย เช่าอย่างเดียว) ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300,000 บาทเท่านั้นครับ
ที่นี่การแต่งงานครั้งนึงใช้เงินประมาณ 1 ล้าน บาทเป็นอย่างน้อย โดยทั่วไปก็ประมาณ 2 ล้านบาท ชุดแต่งงานราคาเช่า 300,000 บาท ก็คงไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาเกินไป เพราะว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่นี่ พนักงานขายของ พนักงานร้าน FastFood หรือกรรมกรระดับล่าง ก็ได้กันประมาณเดือนละ 50,000 บาทไทยแล้ว คนทั่วไปที่มีการศึกษาได้งานดีหน่อย น่าจะได้เงินเดือนกันประมาณ 120,000-300,000 บาท เก็บเงินกันไม่กี่เดือน ได้ชุดแต่งงานในฝันก็ไม่ได้ยากเกินไป
![Odoo • Image and Text](/web/image/9184/IMG_3616-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9185/IMG_3624-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9186/4562.jpg)
เสร็จจากร้านชุดแต่งงาน ก็วิ่งไปไม่ไกลกันไปที่ Avenue Juno ร้านเสริมสวยสำหรับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ธุรกิจแต่งงานที่นี่แตกต่างจากเมืองไทยตรงที่ ทุกการบริการจะถูกแยกออกไปหมด ถ้าอยากจะถ่ายรูปแต่งงานที่นี่ จะต้องไปติดต่อเช่าชุดที่ร้านชุดแต่งงาน ไปแต่งหน้าทำผมกันที่ร้านเสริมสวย (อย่างเช่น Avenue Juno ) ไปติดต่อสตูดิโอขอช่างภาพและเปิดแพคเกจถ่ายสตูดิโอที่นั่น ซึ่งแตกต่างจากเมืองไทย ที่จะรวมทุกอย่างไว้ที่เวดดิ้งสตูดิโอที่เดียวหมด
![Odoo • Image and Text](/web/image/9187/4564.jpg)
จาก Avenue Juno (ที่ที่น่าจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับสาวๆ กับโต๊ะเครื่องแป้งที่แทบจะรวมทุกเคานเตอร์แบรนด์มาอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่ได้ทำให้หนุ่มๆ อย่างเรารู้สึกสนใจอะไร ) ออกมาแล้วก็เจอกับหิมะแรกของเกาหลีกันเลย หิมะลงมาแรงมาก ไกด์สาว Ms. Kay ของเราก็บอกให้ทุกคนเข้ามาหลบข้างใน แต่ชาวคณะทัวร์ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแถบเมืองร้อน ต่างก็วิ่งออกไปถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน ... เขาว่าได้สัมผัสหิมะแรกที่เกาหลีแล้วจะโชคดี ก็ขอให้ดีอย่างที่ว่าละกันนะครับ...
![Odoo • Image and Text](/web/image/9190/1-2.jpg)
วันที่สองนี้เราทำเวลากันได้ดีพอสมควร เลยทำให้มีเวลาเหลือช่วงเย็น ไปเดินเล่นกันได้ประมาณครึ่ง ชม. ที่ถนน Samcheongdong ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Cafe Street นอกจากร้านกาแฟข้างทางแล้ว ยังมีร้านขายเสื้อผ้า แฟชั่น สวยๆ งาม อีกเพียบ แถมหนุ่มๆ สาวๆ ที่เดินกันละแวกนั้น หน้าตาดีกันทุกคน ผู้ชายเกาหลีนี่ได้เปรียบอย่างหนึ่งตรงที่ได้ขายาว บางคนได้ไหล่กว้างด้วย ทำให้รูปร่างดูดีเป็นพิเศษ ยิ่งหากบางคนผ่านมามีดหมอมาแล้วนั้น แทบจะถอดแบบมาจากดาราในทีวีกันเลย
![Odoo • Image and Text](/web/image/9191/7-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9192/9.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9193/IMG_3650-2.jpg)
เมื่อถึงช่วงพลบค่ำ ก็ได้เวลาทานอาหารค่ำสุดพิเศษ มื้อนี้ไปทานกันที่ร้าน Fradia เป็นร้านริมน้ำ ที่ทางองค์การท่องเที่ยวเกาหลีเป็นเจ้าภาพ รู้สึก Exclusive สุดๆ (ปกติเวลาออกไปถ่ายภาพข้างนอก กินข้าวกล่อง นอนกลางดินกินกลางทะเล ) บรรยากาศห้าดาวเลยครับ
เริ่มวันที่สามที่อุณหภูมิประมาณ 1-4 องศา ใบไม้กำลังเปลียนสี บางต้นใบก็หลุดร่วงลงมาแล้ว กำลังได้ฟีลดีที่สุด ใครพาแฟนมาถ่ายภาพในช่วงนี้ นอกจากจะได้ภาพสวยๆ กลับไปแล้ว ยังจะได้ประสบการณ์และความทรงจำแสนโรแมนติคที่ไม่มีวันลืมกลับไปด้วยแน่ๆ ... เช้านี้ ออกเดินทางกันไปที่ พระราชวัง เพื่อไปดูประวัติศาสตร์ที่มาที่ไปของเกาหลีในสมัยก่อน ลักษณะก็คล้ายกับพระราชวังของจีนนะครับ (ใครสนใจประวัติศาสตร์เกาหลี ก็ลองไปศึกษากันดูได้ ) ตอนที่เดินเล่นกันอยู่นั่น หิมะกำลังลงมาเบาๆ บรรยากาศกำลังดีเลยครับ มีร้านกาแฟขายของอยู่ในนั้น สาวเสิรฟที่นั่นก็ใส่ชุดฮันบก เข้ากับบรรยากาศ ผมขอเขาถ่ายรูป แต่น่าเสียดายที่เขาเขินและขี้อายมาก ไม่ยอมให้ถ่ายหน้า แต่อนุญาตให้ถ่ายแต่ชุดได้อย่างเดียว...
![Odoo • Image and Text](/web/image/9194/IMG_3662-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9195/IMG_3663-2.jpg)
เสร็จจากพระราชวัง ก็เดินทางไปที่หมู่บ้าน Bukchon Hanok เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมที่ยังคงมีกลิ่นไอสไตล์เกาหลีสมัยก่อน หากใครจัดทริปมาถ่ายภาพกับบางกอกเวดดิ้ง เราจะไปถ่ายภาพกันที่นี่ครับ ที่นี่นักท่องเที่ยวเดินกันเยอะมาก และมีสตูดิโอเกาหลีหลากหลายแห่งมักมาถ่ายภาพกันที่นี่ เพียงแต่ว่าช่วงที่ผมไป เป็นช่วงหน้าหนาว เจ้าบ่าวเจ้าสาวส่วนใหญ่ จึงเลือกที่จะถ่ายภาพในสตูดิโอแทน ( เพราะสภาพอากาศและอุณหภูมิที่เป็นแบบนี้ ทำให้เวดดิ้งสตูดิโอที่นี่หันไปเอาดีกับการตกแต่งสตูดิโอ และถ่ายภาพ indoor มากกว่าออกมาถ่าย outdoor ครับ )
ราคาถ่ายภาพสตูดิโอที่นี่ จัดว่าแพงพอสมควร ราคาถ่าย indoor อย่างเดียว ราคาหน้าร้าน เริ่มต้นกันที่ 80,000 บาท ถ้าออก outdoor ด้วย เฉพาะค่าตัวและค่าทีมงาน ก็น่าจะ 100,000 บาท up ( ราคาสตูดิโอชั้นนำที่ทำงานเป็นสากลและรองรับชาวต่างชาติได้ ) หากใครอยากไปถ่ายภาพ outdoor ที่เกาหลี แนะนำให้เอาช่างภาพจากบางกอกเวดดิ้งไปครับ ออกค่าเครื่องบินและค่าช่างภาพ ยังจะคุ้มกว่าจ้างทีมงานที่นั่น ...
![Odoo • Image and Text](/web/image/9197/001.jpg)
เสร็จจากหมู่บ้านฮันบก เราก็ไปทานอาหารกลางวัน แล้วไปต่อกันที่ Ra Beauty Core ร้านทำผม ร้านเสริมสวย สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ... จะมีห้องแยกต่างหาก เพื่อคุยรายละเอียดการแต่งหน้าและทำผมกับช่างโดยตรง จากที่ผมสังเกตร้านหลายๆ ที่ ที่นี่ มักจะชอบเอาดารามาโปรโมทกัน คงจะด้วยเพราะอาชีพดารานักร้องเกาหลีเป็นอาชีพในฝันของคนที่นี่ การโปรโมทแบบนี้ คงทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ก็คล้ายๆ กับบ้านเราเหมือนกันนะครับ บางที่ บางสินค้าใช้ดารามาโปรโมท ทั้งๆ ที่ดารานักร้องเหล่านั้น ไม่ได้ใช้สินค้าหรือบริการจริง ( หรือบางร้านจ้างดารามาใช้บริการตัวเองด้วยซ้ำ ... )
![Odoo • Image and Text](/web/image/9198/221.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9199/223.jpg)
![](/web/image/9200/224.jpg)
เดินทางต่อไปที่ ChoiJaeHoon ร้านชุดแต่งงาน ที่อยู่ใจกลางเมือง ..ตอนเข้าตึก แอบเห็นทีมงานกำลังถ่ายทำ Cinema Presentation เลยครับ ไม่น่าเชื่อว่า เอากล้อง D4 ตัวละ 4 แสน มาใช้ถ่าย Cinema ( การถ่าย Cinema จะทำร้าย Censor กล้องพอสมควร อายุการใช้งานกล้องแทบจะลดลงไปกว่า 2-3 เท่าตัว ไม่แปลกใจแล้วครับ ที่ราคาแพคเกจถึงได้แพงขนาดนั้น ) ร้านนี้เป็นตึก 3 ชั้น ชุดแต่งงานที่นี่ ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไร สไตล์ก็คล้ายๆ กับที่เมืองไทยมีเลยครับ
![Odoo • Image and Text](/web/image/9201/331.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9202/332.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9203/333%20%281%29.jpg)
ตอนบ่ายคิวแน่นเอี๊ยด หลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ ก็ไปเริ่มกันที่ The RAUM สถานที่จัดงานแต่งงานที่นั่น หรูหรา มีสไตล์ เหมาะกับการจัดงานแต่งงานในฝันมากๆ มีทั้งจัด indoor และ outdoor นึกภาพแต่งงานในโบสถ์เพดานสูง แสงอาทิตย์ส่องลงมาบนลานพิธี ... ที่ The RAUM คือแบบนั้นเลยครับ ราคาก็เบาะๆ ครับ ขั้นต่ำ แขก 20-30 คน ประมาณ 3 แสนบาทไทย ส่วนจัดงานแบบมาตรฐานอย่างบ้านเรา แขก 300 คน มีกินเลี้่ยงต่างๆ ก็ประมาณ 2 ล้านบาทครับ
![Odoo • Image and Text](/web/image/9204/01.%20RAUM%20overview-2.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9205/15.%20Chamber%20Hall4F-2.jpg)
ตอนบ่ายแก่ๆ เราก็ไปดูงานกันต่ออีก 2 เวดดิ้งสตูดิโอ ที่แรกที่ Cheongdam Studio ที่นี่ฉากต่างๆ คุ้นตามากครับ เคยเห็นในอินเทอร์เนทมาแล้วทั้งนั้น ได้มาเห็นของจริงกับตาตัวเอง ก็แปลกตาดีครับ ที่นี่ทำห้องใต้ดินเจาะลึกลงไปข้างล่าง ถ่ายทำกันได้หลายส่วน และเช่าที่ดาดฟ้า เพื่อทำสตูดิโอด้วย ตกแต่งสวยงาม (แต่ก็แปลกใจว่าถ้าฝนตก หิมะตก จะถ่ายกันได้อย่างไร ) สตูดิโออีกที่หนึ่งไปที่ Studio Wonkyu+ เป็นสตูดิโอระดับ Hi-End มาก ( เท่าที่ดูงานมา ที่นี่จัดว่าดีที่สุด ) งานเพอร์เฟคมากๆ แต่ราคาก็สูงลิบตามเช่นกัน ร้านนี้มี 4 สาขา รองรับลูกค้า 4 สไตล์ หากใครอยากได้งานระดับ Hi End แบบสวยสุดๆ ราคาไม่เกี่ยง (บินไปถึงเกาหลีแล้ว ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว) แนะนำไปที่ Studio WONKYU+ The Masterpiece ครับ เห็นงานที่เขาทำโชว์ไว้สวยงามๆ ( แต่ไม่เคยเห็นงานลูกค้าว่าดีอย่างที่แบบโชว์รึเปล่า )
![Odoo • Image and Text](/web/image/9206/101.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9207/103.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9208/m-1.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9210/l-1.jpg)
สุดท้ายของวัน เพื่อให้เข้ากับการเดินทางดูงาน Wedding ครั้งนี้ เจ้าภาพเลยพาเราไปดูโชว์ Music Show : The Wedding เป็นเรื่องราวความรักของ 2 คน ที่ถูกพ่อตาขัดขวางและไม่เห็นด้วย แต่เจ้าหนุ่มก็พยายามสุดๆ ทุกวิถีทางที่จะทำให้พ่อตายอมรับ ถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงร้องสด สนุกสนาน ถ่ายทอดอารยธรรมเกาหลีออกมาได้ดีมาก บางท่อนบางตอน ขนลุก จนน้ำตาไหล ใครไปแล้วแนะนำให้ไปดูโชว์นี้ด้วยครับ
![Odoo • Image and Text](/web/image/9212/44.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9213/55.jpg)
เช้าวันสุดท้ายก่อนลากลับเมืองไทย เจ้าภาพพาพวกเราไปที่ KoreaHouse เพื่อได้ร่วมเรียนรุ้ตัวอักษาภาษาเกาหลี และเขียนชื่อตัวเองเป็นภาษาเกาหลี รวมไปถึงได้ใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปร่วมกัน สร้างความประทับใจและโปรโมทประเทศเกาหลีเป็นอย่างดี และปิดท้ายด้วยมื้อกลางวัน เมนูอาหารอิตาลี ( KTO มักชอบเลี้ยงอาหารนานาชาติกับคณะ trip นี้ ไม่รู้ว่าเพราะเขาเอาใจเรา หรือเพราะเขารู้ว่าอาหารบ้านเขามันไม่อร่อยกันแน่ ) ร่วมทานอาหรพร้อมแลกเปลี่ยนพูดคุยกับตัวแทนทุกบริษัทที่เราได้เดินทางไปดูงานมา สร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างมาก เรียกได้ว่า ใครได้สัมผัสก็คงต้องอยากกลับไปอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ
![Odoo • Image and Text](/web/image/9215/553.jpg)
![](/web/image/9217/551.jpg)
![Odoo • Image and Text](/web/image/9218/552.jpg)
.... โดยรวมแล้ว เจ้าภาพ KTO จัดทริปได้ดีมาก ทำให้แขกประทับใจ และเชิญชวนให้ต้องหาโอกาสไปเป็นครั้งที่สองให้ได้ ผมกลับมาเมืองไทย ก็ถ่ายทอดความประทับใจนี้ จนบางกอกเวดดิ้งได้ออกแพคเกจทริปท่องเที่ยวและไปถ่ายภาพที่เกาหลีให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวไทย ได้ไป in love กันที่เกาหลี ใครสนใจลองพิจารณากันดูครับ ราคาไม่ได้แพงเลย ... ทริปนี้ทำให่้ผมเปลี่ยนความคิดใหม่เลยครับว่า ของที่อยากได้ หากเรามีเงิน เราจะซื้อเราจะหาเมื่อไรก็ได้ แต่ความทรงจำและประสบการณ์ดีดี มันมีช่วงเวลาของมัน ถ้าผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลย แล้วความทรงจำที่ดีที่สุดในความรักของคนสองคนมันจะอยู่เวลาไหนได้ ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาแต่งงาน ... ฝากไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะครับ
![Odoo • Image and Text](/web/image/9219/IMG_9108-2.jpg)